Wednesday, February 5, 2020

คาถาป้องกันตัวจากหนี้บัตรเครดิต (How to prevent credit card debt)



น้องๆ นิสิต นักศึกษาหรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางท่านยังมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ว่าการใช้บัตรเครดิตเท่ากับการเป็นหนี้ แต่ผู้เขียนขอยืนยันหนักแน่นว่าไม่จริง 1,000,000% ครับ เพราะจะเป็นหนี้หรือจะแฮปปี้นั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้หากใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช้จ่ายเกินตัว จ่ายคืนตรงเวลา จ่ายคืนเต็มจำนวน ก็ไม่มีทางเสียดอกเบี้ยหรือเป็นหนี้ได้ครับ ผู้เขียนขอฝากคาถาป้องกันตัวจากหนี้บัตรเครดิต 5 ข้อ ดังนี้ครับ

1. ตั้งกรอบการใช้

จำไว้เสมอว่าบัตรเครดิตมีไว้ใช้แทนเงินสดที่มีอยู่ในขณะนั้นไม่ได้มีไว้ใช้แทนเงินในอนาคต (อย่าไปหลงใหลกับวงเงินในบัตรที่ได้มา) เราต้องรู้ว่าเรามีเงินสดอยู่เท่าไหร่ และรู้วันสรุปยอด เพื่อตั้งกรอบการใช้บัตรไว้ครับ เช่น เรามีเงินสดที่ใช้ได้อยู่ 5,000 บาท และวันสรุปยอดคือวันที่ 11 ของเดือน ดังนั้นระหว่างวันที่ 11 .. -10 .. ต้องตั้งกรอบไว้ว่าจะใช้บัตรไม่เกิน 5,000 บาทนั่นเอง ผมแนะนำว่าควรจดบันทึกยอดใช้บัตรและคำนวณยอดรวมไว้ทุกครั้ง จดไว้ใน note ของมือถือหรือจะใช้แอปพลิเคชันอย่าง Piggipo ที่มีฟังก์ชันช่วยให้การจดบันทึกก็สะดวกดีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืม!!! ตั้งสติก่อนรูด/ก่อนช้อปทุกครั้งนะ^^

2. ตรวจสอบใบแจ้งหนี้เสมอ

ใช้บัตรเครดิตทุกครั้งอย่าทิ้งใบเสร็จ แนะนำให้เก็บไว้ตรวจสอบกับใบแจ้งหนี้เสมอ หากมีรายการที่เราไม่ได้ใช้จะได้รู้และรีบติดต่อคอลเซ็นเตอร์เพื่อปฏิเสธ(dispute) รายการนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืม!!! เก็บรักษาข้อมูลบัตรให้ดี อย่าเผลอไปกรอกข้อมูลให้กับเว็บมิจฉาชีพ (phishing) หรือหากทำบัตรหายก็ต้องรีบอายัดบัตรจะได้ไม่มีงานเข้าครับ ปัจจุบันหลายธนาคารมีแอปพลิเคชันแจ้งเตือนการใช้งานบัตรทุกครั้งด้วยทำให้ผู้ใช้รู้ตัวได้ทันท่วงทีหากมีรายการที่เราไม่ได้ใช้เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ด้วยฟังก์ชันปิด-เปิดการใช้งานบัตรในแอปด้วยนะ^^

3. จ่ายตรงเวลา

หลังวันสรุปยอด ธนาคารจะมีเวลาให้เราจ่ายเงินคืนอยู่หลายวันจนกระทั่งถึง วันครบกำหนดชำระเงิน (due date) ช่วงเวลาดังกล่าวเรียกว่า ระยะเวลาชำระคืนโดยปลอดดอกเบี้ย หากชำระเต็มจำนวนซึ่งบัตรเครดิตแต่ละธนาคารจะมีระยะเวลาสั้นยาวแตกต่างกัน เช่น บัตรเครดิตกรุงศรี มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย สูงสุด 50 วันนับจากวันที่บันทึกรายการใช้บัตร จนถึงวันครบกำหนดชำระเงิน ถ้าเราจ่ายเงินคืนเต็มจำนวนภายในช่วงเวลานี้จะไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น เคล็ดลับที่ขอฝากไว้คือจ่ายตั้งแต่วันแรกๆ ไปเลย ไม่ต้องรอไปจ่ายวันสุดท้ายเพราะอาจจะลืมจ่ายจนเลยวันครบกำหนดไป หรือหากท่านใดต้องการความสะดวกสบายสามารถสมัครบริการตัดบัญชีอัตโนมัติเพื่อจ่ายค่าบัตรเครดิตเลยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ

4. จ่ายเต็มจำนวน

ท่องจำให้ขึ้นใจไว้เลยนะครับว่าเราจะไม่มีทางเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิต หากจ่ายคืนเต็มจำนวน เช่น มียอดเรียกเก็บ 5,000 บาทเราต้องจ่ายคืน 5,000 บาท เพราะถ้าจ่ายไม่ครบธนาคารจะคิดดอกเบี้ย โดยนับจากวันที่มีการบันทึกรายการใช้บัตรเลยทีเดียว (ไม่ได้นับจากวันสรุปยอดนะจะบอกให้) ข้อนี้สำคัญมาก เพราะฉะนั้นท่องจำให้ขึ้นใจไว้เลยนะครับว่า จ่ายเต็มจำนวน” “จ่ายเต็มจำนวนและ จ่ายเต็มจำนวนห้ามจ่ายขั้นต่ำโดยเด็ดขาด!!!

5. ไม่กดเงินสดจากบัตรเครดิต

การใช้บัตรเครดิตเพื่อรูดใช้จ่ายนั้นจะไม่เกิดดอกเบี้ยใดๆ ถ้าทำตามข้อ 1-4 แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกมาจากตู้เอทีเอ็มแล้วล่ะก็ อย่างแรกที่จะโดนเลยคือค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด 3% (+ VAT 7%) เช่น กดเงิน 10,000 บาทจะเสียค่าธรรมเนียมทันที (10,000 x 3% = 300 บาท) บวก VAT 7% รวมเป็นทั้งหมด 321 บาท จากนั้นจะโดนคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันนับตั้งแต่วันที่กดเงินออกมาเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากห่อเหี่ยวหัวใจจำไว้เลยว่า ต้องไม่กดเงินสดเด็ดขาดย้ำอีกครั้ง!!! ต้องไม่กดเงินสดเด็ดขาด


เห็นไหมครับว่าการใช้บัตรเครดิตไม่ได้แปลว่าต้องเป็นหนี้ นอกจากนี้หากรู้ วิธีการใช้บัตรที่ถูกวิธี แล้วล่ะก็ จะยิ่งได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนกลับมาด้วยซ้ำ หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของบัตรพลาสติกแทนเงินสดดียิ่งขึ้นและไม่ขยาดกับการเริ่มใช้บัตรเครดิตกันนะครับ

หมายเหตุ อัปเดตข่าวสารทุกวันที่เพจ "สังคมไทยไร้เงินสด" 

No comments:

Post a Comment